น้ำท่วมผ่านไป แต่ภัยหลังน้ำคือสิ่งที่ชาวสวนต้องเผชิญ ต้นไม้ที่เปียกแฉะเป็นเวลานานอาจเกิดโรค รากเน่า หรือขาดออกซิเจนได้
อย่ารอช้า! เราขอแนะนำแนวทางฟื้นฟูต้นไม้หลังน้ำลดอย่างถูกต้อง ช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวไว ลดการตาย เสริมภูมิต้านทานให้พร้อมกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ใครที่มีสวนผลไม้ แปลงต้นกล้า หรือเพิ่งเพาะกล้าไว้ ต้องรีบอ่านบทความนี้ด่วน!
เมื่อน้ำท่วมผ่านพ้นไป สิ่งที่ตามมาคือความเสียหายที่อาจมองไม่เห็นในทันที โดยเฉพาะกับต้นไม้ในสวน ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ไม้ยืนต้น หรือกล้าไม้ที่เพาะไว้ ล้วนมีโอกาสได้รับผลกระทบจากสภาพน้ำขัง เปลือกชื้น หรือรากขาดอากาศ บทความนี้จะพาไปดูวิธีการจัดการอย่างถูกต้องเพื่อฟื้นต้นไม้ให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วที่สุด
เริ่มจากการสำรวจต้นไม้ทั้งแปลงว่ามีต้นใดที่มีอาการผิดปกติ เช่น ใบเหลือง ร่วง เหี่ยว หรือมีคราบน้ำติดที่โคนต้น ให้แยกต้นที่เสียหายออกจากต้นปกติเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อราและโรค
หากพื้นที่ยังมีน้ำขัง ควรขุดร่องระบายน้ำ หรือตักน้ำออกให้เร็วที่สุด เพราะรากพืชต้องการอากาศ หากแช่น้ำเกิน 3–5 วัน รากอาจเน่าเสียและต้นไม้จะตายได้
ใบ ราก หรือกิ่งที่เริ่มเน่า ควรตัดแต่งออกทันทีเพื่อลดแหล่งสะสมของเชื้อโรค ใช้กรรไกรหรือมีดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และทายารักษาแผลต้นไม้ที่บริเวณตัดแต่ง
ดินที่ถูกน้ำท่วมมักแน่น อับชื้น และขาดจุลินทรีย์ที่ดี ควรเติมปุ๋ยหมัก แกลบดำ หรือฮิวมัสเพื่อช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดินให้โปร่ง และเสริมด้วยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงหรือจุลินทรีย์บาซิลลัสช่วยย่อยสลายของเสีย
ต้นไม้ที่เพิ่งผ่านวิกฤตยังอ่อนแอ การให้ปุ๋ยเคมีอาจยิ่งทำให้รากไหม้ ควรใช้น้ำหมักชีวภาพหรือฮอร์โมนพืชธรรมชาติแทนในช่วงแรก
หลังน้ำลด ศัตรูพืชมักระบาด โดยเฉพาะเชื้อรา เพลี้ย และหนอน ควรฉีดพ่นสารชีวภาพหรือสมุนไพร เช่น น้ำขิง น้ำสะเดา เพื่อป้องกันในช่วงต้น
การฟื้นตัวของต้นไม้ต้องใช้เวลา ควรจดบันทึกการเปลี่ยนแปลง และหมั่นตรวจเช็คอาการทุกสัปดาห์ เพื่อปรับแนวทางการดูแลอย่างเหมาะสม
📌 ฟื้นต้นไม้หลังน้ำท่วม คือการฟื้นความหวังของชาวสวน
อย่าท้อแท้ไป แม้จะเสียหายบ้าง แต่ถ้าฟื้นตัวทัน เราสามารถรักษาต้นทุนเดิมและสร้างรายได้ในอนาคตได้เช่นกัน
📞 สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อต้นกล้าเพิ่มเติม
โทร: 062-874-7914
🌐 เว็บไซต์: www.coffarmfair.com
📺 YouTube: Coffarmfair Channel
📘 Facebook: facebook.com/Coffarmfair