สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าประเทศไทย36% บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันดู ว่าด้วยเรื่องสงครามภาษีของไทย 01

เมื่อคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ได้ขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่ง เรื่องเหล่านี้เลยเกิดขึ้น 

- วันที่ 2 เมษายน 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้นโยบายภาษีนำเข้าฉบับใหม่ โดยกำหนดภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ และกำหนดภาษีเพิ่มเติมสำหรับบางประเทศที่มีดุลการค้ากับสหรัฐฯ ไม่สมดุล
โดยประเทศไทยถูกกำหนดภาษีนำเข้าเพิ่มเติมที่ 36% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้แสดงความมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยรัฐบาลได้เตรียมมาตรการตอบสนอง เช่น การปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าและจัดตั้งทีมเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาข้อยุติที่เป็นธรรม nationthailand 

จริงเหรอที่โดน 36% แล้วไม่กระทบ 

อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ประเมินว่าประเทศไทยอาจสูญเสียรายได้จากการส่งออกถึง 900,000 ล้านบาท (ประมาณ 25.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการที่สหรัฐฯ เพิ่มภาษีนำเข้า โดยอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์ อาหาร พลาสติก เคมีภัณฑ์ เหล็ก อะลูมิเนียม สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร Theinvestor

เพื่อบรรเทาผลกระทบ รัฐบาลไทยมีแผนที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำมันดิบ และเอเทน เพื่อปรับสมดุลการค้า และกำลังพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

ขณะนี้ ผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้าสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงรอดูท่าที เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้การส่งออกชะลอตัวลง Bangkok Post

รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

จากการที่สหรัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยขึ้น 36% อุตสาหกรรมไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่:

• ยานยนต์: การเพิ่มภาษีนำเข้าอาจทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ พิจารณาย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย

• อาหาร: อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและอาหารทะเล ซึ่งเคยได้รับการยกเว้นภาษี อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันเนื่องจากภาษีที่เพิ่มขึ้น

• พลาสติก: อุตสาหกรรมพลาสติกที่มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 5-6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ nationthailand

• เคมีภัณฑ์: การส่งออกเคมีภัณฑ์ไปยังสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะลดลง Theinvestor

• เหล็กและอะลูมิเนียม: อุตสาหกรรมเหล่านี้จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

• สิ่งทอ: ผู้ซื้อต่างประเทศอาจหลีกเลี่ยงการสั่งซื้อสินค้าจากไทยเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี

• อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักร: สินค้ากลุ่มนี้จะเผชิญกับความท้าทายในการรักษาส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยได้รับการยกเว้นจากภาษีที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ถือเป็นสินค้าจำเป็นและมีปริมาณการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในระดับต่ำ nationthailand

เอาจริงๆ สำหรับเรื่องนี้แล้ว ตัดภาคอุตสากรรมออกไป พวกเรายังไงก็ได้รับความกระทบไม่มากก็น้อย แต่นอกเหนือส่งอื่นใดเกลียดความมั่นหน้าของตัวต้นเรื่องมาก ลองคิดดูว่าถ้าเอเชียเกาะกลุ่มให้แข็ง เราคือทวีปที่ใหญ่ที่สุดนะ ของกินของใช้ก็คล้าย ๆ กัน คนก็มากกว่า...ยังรอดูอัพเดตอยู่คะ ถ้ามีคืบหน้าจะเอามาเล่าต่อ