เลือกสายพันธุ์กาแฟให้เหมาะกับพื้นที่ปลูก

เลือกสายพันธุ์กาแฟให้เหมาะกับพื้นที่ปลูก

อยากจะหยิบยกพืชหนึ่งตัวที่กลับมาเป็นที่นิยมขึ้นมาเล่าเรื่องพื้นฐานให้ทุกคนได้รู้ประกอบการตัดสินใจก่อนลงปลูก... ต้นกาแฟ

ช่วงโควิทจะมีหลายคนกลับบ้านไปสานต่องานด้านเกษตรที่เป็นมรดกตกทอดก็ดี หรือทำด้วยใจรักก็ดี บทความนี้พัทจะเล่าในส่วนของต้นกาแฟ เรื่องควรรรู้ เรื่องที่ต้องรับมือเมื่อ และเรื่องที่ต้องระวัง ปลูกต้นกาแฟไปแล้ว ลองอ่านกันดูค่ะ

เรื่องควรรรู้

·     ต้นกาแฟ ไม่ได้ปลูกได้ในทุกพื้นที่ เจริญเติบโตดีในดินผสม ความเป็นกรด ด่างระดับกลาง ดินทรายล้วน ดินเหนียวล้วนจะโตได้ไม่ดี หากจะพูดให้เข้าใจง่ายคือถ้าในพื้นที่ปลูกของเรามีการปลูกต้นกล้วย กล้วยโตดี ต้นกาแฟก็อยู่ได้ และด้วยนิสัยชอบสภาพ ร้อนชื้น ไม่นิยมร้อนแห้ง

·     การเลือกสายพันธุ์กาแฟ ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยคือ แสง และความสูงของระดับน้ำทะเลในพื้นที่ แยกระหว่าง อาราบิก้า และโรบัสต้า

-            โรบัสต้า ใช้แดด 80 %  ถ้าแดดไม่ถึงผลจะไม่ดก ถ้าแดดจัดไปต้นจะเกร่ง

-            อาราบิก้า ใช้แดด 70% และสายพันธุ์แต่ละตัวจะต้องเหมาะสมสำหรับพื้นที่ด้วย

ถ้าเอาสายพันธุ์ที่ควรปลูกในระดับน้ำทะเลที่สูง มาลงปลูกในพื้นที่ระดับน้ำทะเลต่ำจะทำให้รสชาติของผลเชอรี่มีรสเปรี้ยวจัด

มีหลายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม แต่ที่นิยมมากในการนำลงมาปลูกเสริมสวนยางคือคาร์ติมอร์

·     ระยะที่นิยมใช้คือ 4*4 เมตร และระยะขั้นต่ำคือ 3*3 เมตร บางที่จะแนะนำระยะที่น้อยกว่านี้แต่พัทก็ยังแนะนำระยะขั้นต่ำ 3*3 เมตรอยู่ดี ปลูกมาก ปลูกถี่ ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลผลิตเยอะนะคะ ดังนั้นใช้ระยะขั้นต่ำแล้วเน้นตัดแต่งกิ่งให้เต็มพุ่มจะได้ผลดกและประหยัดต้นทุนด้วย

ถ้าใช้ 3*3 เมตร ใน 1 ไร่ใช้ประมาณ 150 ต้น

และ 4*4 เมตร ใน 1 ไร่ใช้ประมาณ 100 ต้น

เริ่มให้ผลตอน 1.6 ปีหลังการปลูกและให้ผลเต็มตอน 3 ปีคะ

เรื่องที่ต้องรับมือ

·     ตกระยะการให้ผลปีละครั้ง ครั้งละสามรอบ ในระยะการจัดการประมาณ3เดือน

·     ถ้าจะปลูกสวนกาแฟจะต้องเตรียม***เรื่องคนงาน***ไว้ด้วยคะ เพราะต้นกาแฟจะต้องมีการเก็บเกี่ยว การตาก การสีสาร การทำความสะอาดต้น และการแต่งกิ่ง

เรื่องที่ต้องระวัง

·     การปลูกผสมทุกสายพันธุ์ลงในพื้นที่ ถามว่าสามารทดลองทำได้ไหม ... ทำได้คะ แต่ตอนที่เก็บผลผลิต ตาก หรือ ขาย พวกพี่จะต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน ไม่สามารถรวบทุกอยากรวมกันได้ สายพันธุ์กาแฟแต่ละตัวจะมีจุดเดือดตอนคั่วแตกต่างกัน เมื่อนำไปคั่วบางเมล็ดจะสุก บางอันกลาง บางอันไหม้ ยังไม่ได้พูดเรื่องการเจือปนด้านรสชาตินะคะ ดังนั้นนี้คือข้อควรระวังมากที่สุด

·     เราจำเป็นต้องทำความสะอาดต้นทุกครั้งหลังจากเก็บเกี่ยว เม็ดที่ค้างบนกิ่ง หรือหล่นใต้ต้นจะต้องเก็บออกจนหมด ไม่อย่างนั้นปีหน้าตัวมอด แมลงจะลง

ความคุ้มทุน

 ลองคิดเป็นแนวทางนะคะ ... ถ้าใครมีคำถามหรือไม่แน่ใจว่าปลูกแล้วจะคุ้มไหมก็ลองอ่านดู ต่อให้ใครจะพูดยังไง ท้ายที่สุดก็ยังเป็นพวกพี่กลับไปตัดสินใจอยู่ดี

ถ้าเราขายเมล็ดสด ราคาจะอยู่ที่ กิโลละ 10 – 15 บาท แล้วแต่พื้นที่

ถ้าขายเมล็ดสาร AA  ราคาจะอยู่ที่ กิโลละ 40-50 บาท แล้วแต่พื้นที่

ถ้าขายเมล็ดสาร AAA ลอยน้ำ เชอรี่คัดมือ ราคาจะอยู่ที่ กิโลละ 70-90 บาท แล้วแต่พื้นที่

ราคาเหล่านี้ยังอิงขึ้นลงตามตลาดโลกด้วยนะคะ ถ้าจะเอาให้มีกินมีใช้ สมควรทำให้สุด ทั้งปลูกด้วย แปรรูปด้วย และขายตรงกับลูกค้าจึงจะคุ้มทุนและมีเก็บคะ